ทำยังไง?..อะไรๆก็แพง

โดย Admin T
 วันที่ 26 ม.ค. 2565 เวลา 10:56 น.
 1105

สรุปการเสวนา 
FTC TALK EP32 : ทำยังไง?..อะไรๆก็แพง

 
          รายการ FTC Talk ประจำวันเสาร์ที่  22 มกราคม 2565  ได้รับเกียรติจาก คุณสายพิณ ตรีกิตติวัฒน์ อดีตทนายความ,นักจัดรายการวิทยุ และวิทยากรอบรม ปัจจุบันท่านดำรงเป็นคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 18 ของ FTC มาแบ่งปัน เคล็ด (ไม่) ลับ ของการใช้ชีวิตอย่างไร เมื่อยุคนี้อะไรๆ ก็แพง !
 
คำว่า “ของแพง” คืออะไร ?

     ถ้าเราลองย้อนกลับไปดูสมัยประวัติศาสตร์ จะรู้ได้เลยว่าของแพงไม่ได้มีแค่ปัจจัยเดียว มันมาจากหลายอย่าง เช่น ค่าเงินเฟ้อ ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ตัวอย่าง

- ที่ดิน สมัยก่อนเมื่อประมาณ 80-90 ปีที่แล้ว ที่ดินแถวซอยราชครูวาละ 400 บาท ตอนนี้วาละ 400,000 บาท ไม่รู้จะซื้อได้หรือเปล่า? ส่วนที่ดินแถวเอกมัย วาละ 280 บาท ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่เกิดกัน เราก็ไม่เคยได้อยู่ในบรรยากาศของการจะไปซื้อที่ราคาเท่านั้น ตอนนี้เอกมัย วาละ 500,000 บาท ยังไม่รู้จะซื้อได้ไหม
- ราคาทอง เมื่อก่อนบาทละ 400 บาท ตอนทำงานใหม่ๆ มีตังค์ซื้อทองบาทละ 3,400 บาท นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ได้ซื้อทอง
- กล้วยหอม จากร้านค้า ลูกละ 75 สตางค์ ปัจจุบัน ลูกละ 8 บาท
- น้ำมัน ลิตรละ 7 บาท ในสมัยนั้น ก็บอกว่าสักวันนึงนะ ในอนาคตน้ำมันจะ 3 ลิตร 100 บาท เมื่อก่อนก็หัวเราะกัน หัวเราะกลิ้งเลย เพราะคิดว่าไม่มีทางจะเป็นไปได้ ปัจจุบันเบนซิน ลิตรละ 41 บาท
- น้ำแข็งเปล่า เมื่อก่อนฟรี แล้วก็เป็นแก้วละสลึงนึง ปัจจุบันแก้วละ 2 บาท แถมน้ำก็ต้องซื้อแยก
   
    ที่มันแปลกคือเวลารัฐบาลประกาศค่าแรงขั้นต่ำ เขตนี้จะได้ 3 บาท เขตนี้จะได้ 2 บาท แต่ค่าก๋วยเตี๋ยวขึ้นไปรอแล้ว 5 บาท ท่องสูตรคูณแม่ 5 อย่างเดียวเลย 25 บาทไป 30 บาท ตอนนี้ราคาก๋วยเตี๋ยวพื้นๆที่แบบอยู่ท้อง คือถ้วยละ 50-60 บาท ราคาก้าวกระโดดไกลมาก ราคาสินค้ากับสายน้ำ เหมือนกัน ก็คือไม่ไหลย้อนกลับ ขึ้นแล้วขึ้นเลย

ช่องทางขาเข้า-ขาออก ของรายได้
     วันนี้จะชวนพวกเราคุยเรื่องรายได้ในโลกนี้มันมี 5 แบบ อะไรที่นอกเหนือจาก 5 แบบนี้ เราต้องระมัดระวังและรอบคอบให้มากขึ้น และต้องพยายามศึกษาเรียนรู้เรื่องการเงินแบบนี้ผ่านช่องทางต่างๆ

แบบที่1 รายได้จ่ายครั้งเดียว เช่น อาชีพทนาย ทำคดีจบ คุณก็ต้องไปหาคดีใหม่ หรือเกษตรกร ทำนาเกี่ยวข้าวได้ครั้งเดียว ครั้งที่ 2ก็ต้องปลูกข้าวใหม่ วิศวะกร คุมอาคารก่อสร้าง จะต้องไปรับโปรเจคใหม่เมื่อจบโครงการ

แบบที่2 รายได้ถดถอย ที่กำลังเป็นกระแสมาก คือ เด็กวัยรุ่นไม่ได้อยากเรียนเก่ง ไม่อยากเรียนสูง ไม่ได้อยากเรียนดี แต่อยากไปทำหน้าทำตา ไปศัลยกรรม หลังจากทำมาปุ๊บก็ไปมีอาชีพที่มีรายได้ถดถอย คือเข้าสู่วงการเป็นดารา ถ้าเป็นนางเอกตอนละ 30,000 บาท พออยู่ไปนานๆ เริ่มแก่ตัวลง แสดงเป็นบทแม่ บทยาย เล่นเป็นทุกบทบาท เหลือค่าตัวตอนละ 3,000 บาท ก็ต้องไปทำอาชีพเพิ่ม เพราะเขารู้ว่าอาชีพของเขาเนี่ยคือการเอาเงินอนาคตมาใช้

แบบที่ 3 รายได้ขึ้นลงตามสถานการณ์ น่าเจ็บปวดมาก ยกตัวอย่างคนที่ขายตั๋วเดินทางจากทัวร์นักท่องเที่ยวต่างประเทศ อาชีพไกด์ เจอ covid-19 จนตอนนี้ covid 23 รายได้ยังไม่เหมือนเดิม โรงแรม,ร้านอาหาร,ภัตตาคาร ฯลฯ กิจการเหล่านี้ รายได้ขึ้นลงตามสถานการณ์ เจ๊งหมดเมื่อเจอวิกฤต

แบบที่ 4 รายได้ขั้นบันได  เช่น ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน คือ1ปี มี 12 เดือน ขึ้นเงินเดือนครั้งนึงไปเรื่อยๆ เงินเดือนขึ้นบันได 12 เดือน มีเงื่อนไขระหว่างขึ้นบันได ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามสาย ถ้าคุณเข้าช่องใดที่พูดมาคุณก็อาจถูกหักเงินเดือน ถูกงดโบนัส หลายๆบริษัทคุยกับพนักงานว่าตอนนี้บริษัทกระทบ covid  ขอลดเงินเดือน 30 เปอร์เซ็นต์ มีให้เลือก2ทาง ถ้ายอมลดเงินเดือน คุณได้อยู่ต่อ หรือถ้าไม่เอาคุณได้ไปบริษัทใหม่ คนส่วนใหญ่จะเอาไว้ก่อน แบบนี้เรียกรายได้ขั้นบันได แต่รายได้ขั้นบันไดสิ้นสุดที่ 60 ปี บางที่ 55 ปี ปัจจุบันเกษียณเร็วขึ้นในหลายๆบริษัท ถามว่าวันนี้รายได้ขึ้นตามขั้นบันได แต่ค่าครองชีพขึ้นลิฟต์

แบบที่5 รายได้แบบพหุคูณ เป็นรายได้ที่ดีที่สุดในโลก คือการทำงานที่เป็นการสร้างเครือข่ายมนุษย์ และเมื่อเขาเหล่านี้ทำงานเป็นเหมือนเรา มันเหมือนกับที่เราออกไปทำเป็นจำนวนมากๆ ไม่ใช่เหมือนแฟรนไชส์บะหมี่เกี๊ยว ถ้าไปเจอทำเลไม่ดี แฟรนไชส์ก็ล่มได้
     แต่มนุษย์หรือธุรกิจพหุคูณของเรา มนุษย์มีแต่งอกงาม มนุษย์มีแต่ฉลาดขึ้น เก่งขึ้น สมัยเราทำธุรกิจแอมเวย์ใหม่ๆเราไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ผงซักฟอกSA8 เราก็ยังเรียกแฟ้บอยู่เลย ต้องเลือกธุรกิจ MLM ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วจากทั่วโลกอย่างแอมเวย์ ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว เขาดังกันทั่วโลกมีมาก่อนพวกเราเกิด ตั้งแต่ปี 2502 แปลกมาก เวลาเราไปชวนใครแล้วเรามีหลักฐานข้อมูล มีสินค้าสาธิตให้ชม มีตัวอย่างสินค้าให้ลองใช้ มีแผนธุรกิจที่ตรวจสอบได้ คนไม่สนใจ  แต่คนจะสนใจแบบว่ารวยเร็วลงทุนไป 90 วัน แล้วคุณจะได้ผลตอบแทน 50% อะไรแบบนี้ คือแบบอะไรที่มันเวอร์ๆ ที่มันแบบดูเหมือนง่ายในความง่าย มันมีความหลอกลวงซ่อนอยู่ 
      ถ้าเรารู้จักธุรกิจพหุคูณ ไว้จะดีมาก เพราะวิกฤตจะมาอีกแน่ๆ 3 อย่างที่เราหนีไม่พ้นตั้งแต่เกิดจนตาย คือ 1.ภาษี  2.ความตาย 3.วิกฤต ซึ่งวิกฤตเราไม่ทราบหรอกว่ามันจะมาเมื่อไหร่? การเตรียมตัวรับมือไว้ดีที่สุด

สรุป เราอย่ารอวันที่สินค้าจะถูกลงเพราะมันจะไม่มีวันนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือ จัดระบบชีวิตเรา การมีเงินสำรองฉุกเฉิน อย่างน้อยๆ 6 เดือน และเรียนรู้เรื่องการเงิน และการลงทุน เพื่อเป็นการฉีดวัคซีนเกี่ยวกับการเงิน ไม่ไปเป็นหนี้นอกระบบ อย่าใช้ชีวิตเกินกว่ารายได้ ให้ใช้ชีวิตต่ำกว่ารายได้เสมอ รายได้จะมาพร้อมกับศักยภาพของเรา เงินเดือนจะขึ้นตามศักยภาพของเรา ให้พัฒนาศักยภาพของเราให้สูงขึ้นเรื่อยๆ